จำนำจอดคืออะไร

 

จำนำจอด คือการนำรถไปจอดไว้เพื่อเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในการขอสินเชื่อ ซึ่งรถอาจติดไฟแนนซ์อยู่ หรือ ไม่ได้ติดไฟแนนซ์แล้วก็ได้
 
 
จำนำจอด เหมาะกับใคร
  • ท่านที่มีความจำเป็นต้องการใช้เงินด่วนมากๆ
  • ไม่จำเป็นต้องใช้รถ
  • ไม่มีเอกสารทางการเงิน
  • ติดแบล็คลิสต์
  • รถพึ่งซื้อมา พึ่งเริ่มผ่อน ยังไม่สามารถรีไฟแนนซ์ได้

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คุณชาตรี โทร. 095-472-7322 
 
(หากผมไม่ได้รับสาย ผมจะรีบติดต่อกลับให้เร็วที่สุดนะครับ)
 

 

ข้อมูลติดต่อ

 

โทร : 095-472-7322

 

FACEBOOK : JPCapitalDotPartners

 

E-MAIL : hearhui@gmail.com

 

LINE : hearhui

จำนำเล่มทะเบียนคืออะไร

จำนำเล่มทะเบียน ไม่ต้องโอนรถ

สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียน หรือ สินเชื่อรถยนต์มือสองที่ปลอดภาระ เจ้าของรถยนต์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์ มีความต้องการยื่นสินเชื่อรถยนต์โดยไม่ต้องโอนกรรมสิทธิ์ โดยใช้เล่มทะเบียนค้ำประกันไว้ พร้อมกับเอกสารโอนลอย ไว้ให้กับทางสถาบันการเงิน หรือ บริษัทผู้ให้บริการสินเชื่อ แต่รถยนต์ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ เมื่อผ่อนชำระค่างวดครบตามสัญญาแล้ว ก็สามารถขอรับเล่มทะเบียน พร้อมเอกสารโอนลอยคืนได้ทันที

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คุณชาตรี โทร. 095-472-7322 
 
(หากผมไม่ได้รับสาย ผมจะรีบติดต่อกลับให้เร็วที่สุดนะครับ)
 

 

ข้อมูลติดต่อ

 

โทร : 095-472-7322

 

FACEBOOK : JPCapitalDotPartners

 

E-MAIL : hearhui@gmail.com

 

LINE : hearhui

ค่าธรรมเนียมการโอน – ภาษีที่ดิน

 

 

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คุณชาตรี โทร. 095-472-7322 
 
(หากผมไม่ได้รับสาย ผมจะรีบติดต่อกลับให้เร็วที่สุดนะครับ)
 

 

ข้อมูลติดต่อ

 

โทร : 095-472-7322

 

FACEBOOK : JPCapitalDotPartners

 

E-MAIL : hearhui@gmail.com

 

LINE : hearhui

ขายฝากคืออะไร

 
การขายฝาก หมายถึง สัญญาซื้อขายซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกไปยังผู้ซื้อ โดยมีข้อตกลงกันว่า ผู้ขายอาจไถ่ทรัพย์นั้นคืนได้ภายในเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา หรือมิฉะนั้นในกำหนดเวลาตามกฎหมาย คือ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน ที่ดิน ต้องไถ่ภายใน 10 ปี นับแต่เวลาที่มีการซื้อขาย แต่ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ ต้องไถ่ภายใน 3 ปีนับแต่ซื้อขาย
 
หากเกินกำหนดเวลานี้แล้วกฎหมายถือว่า กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ซื้อขายฝากกัน ตกเป็นของผู้รับซื้อฝากทันที
 
กรณีที่ทำสัญญากำหนดเวลาไถ่นานเกินกว่า 10 ปี 3 ปี ก็ต้องลดลงมาเป็น 10 ปี 3 ปี หรือถ้าทำสัญญากำหนดเวลาไถ่ ต่ำกว่า 10 ปี 3 ปี ก็จะขยายเวลามิได้ หลักสำคัญของการขายฝาก อยู่ที่ต้องมีการส่งมอบการครอบครองโดยตรงหรือปริยายให้แก่ผู้รับซื้อฝากพร้อมกับกรรมสิทธิ์
แต่เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว ผู้ขายฝากมีสิทธิที่จะไถ่ถอนได้ ดังนั้นในช่วงเวลาที่ยังขายฝากกันอยู่และกรรมสิทธิ์ตกแก่ผู้รับ ซื้อฝาก ผู้รับซื้อฝากอาจจะนำทรัพย์สินไปทำอย่างใดก็ได้ ใครๆ ก็ไม่มีสิทธิห้ามปราม
ข้อแตกต่างระหว่าง “การขายฝาก” กับ “การจำนอง” คือ การจำนองนั้นผู้จำนองนำทรัพย์สินของตน เช่น บ้าน-ที่ดินไปค้ำ ประกันหนี้เงินกู้ หากผิดนัดไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้ก็จะฟ้องร้องและบังคับคดียึดทรัพย์สินที่นำมาค้ำประกันไว้
แต่การขายฝากเป็นการนำทรัพย์สินไปขายให้แก่คนอื่นภายใต้เงื่อนไขที่ว่า เมื่อถึงกำหนดแล้วผู้ขายฝากมีสิทธิไถ่ถอนได้ หากเกินกำหนด ก็เสียกรรมสิทธิ์ทันที
ส่วนใหญ่แล้ว ผู้รับซื้อฝากกับผู้ขายฝากจะมีการทำสัญญาในลักษณะปีต่อปี เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายว่าด้วยการขายฝากที่มีกำหนดเวลาไถ่ถอนไว้ ห้ามต่อเวลาห้ามขยายเวลาทั้งสิ้น แต่สิ่งหนึ่งที่มักจะคิดไม่ถึง คือ การที่ทำสัญญาปีต่อปีนั้น ทุกครั้งจะต้องเสียภาษีที่เกี่ยวข้องหลายประเภททุกครั้งไป เช่น กรณีขายฝากบ้าน-ที่ดิน ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะร้อยละ 3.3 ของราคาขายฝากทั้งหมด ค่าธรรมเนียมการโอนและค่าอากรร้อยละ 2.5 และยังค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นี่ยังไม่นับค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีบำรุงท้องที่ ที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ต้องเสียทุกปี ผู้รับซื้อฝากที่ได้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินจะต้องเป็นผู้จ่าย
แต่แน่นอนว่าต้องผลักภาระไปให้ผู้ขายฝากซึ่งเป็นเจ้าของเดิมจ่ายแทนเสมอ ภาษีที่กล่าวถึงเหล่านี้ ผู้ขายฝากจะต้องเป็นผู้รับ ภาระทุกๆครั้ง ซึ่งเมื่อนำมาคิดคำนวณแล้วยอดเงินที่ผู้ขายฝากต้องจ่ายไปทั้งสิ้น กลับสูงกว่าที่ได้รับมาตอนขายฝากเสียอีก จึงเห็นได้ว่าสัญญาขายฝากเป็นสัญญาที่เอาเปรียบผู้ขายฝากเป็นอย่างยิ่ง และยิ่งหากเผลอไผลไม่ไปไถ่ถอนในกำหนดเวลาก็จะต้องเสียกรรมสิทธิ์ทันที
 
 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คุณชาตรี โทร. 095-472-7322 
 
(หากผมไม่ได้รับสาย ผมจะรีบติดต่อกลับให้เร็วที่สุดนะครับ)
 

 

ข้อมูลติดต่อ

 

โทร : 095-472-7322

 

FACEBOOK : JPCapitalDotPartners

 

E-MAIL : hearhui@gmail.com

 

LINE : hearhui

จำนองคืออะไร

 
การจำนอง คือ
 
สัญญาที่ผู้จำนองใช้ ทรัพย์สินของตนเองเป็นประกันการชำระหนี้ของลูกหนี้ โดยนำไปจดทะเบียนตราไว้เป็นประกัน เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้เจ้าหนี้ มีสิทธิบังคับเอาทรัพย์สินที่จำนองได้ ผู้จำนองอาจจะเป็นตัวลูกหนี้เองที่เอาทรัพย์สินมาจำนองเจ้าหนี้(ลูกหนี้ชั้น ต้น)หรือบุคคลอื่นอื่นเอาทรัพย์สินมาจำนองเจ้าหนี้ก็ได้ (บุคคลที่สาม) ลักษณะของสัญญาจำนอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 702 วรรคแรก บัญญัติว่า “อันว่าจำนองนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้จำนองเอาทรัพย์สินตราไว้แก่บุคคลอีกคน หนึ่งเรียกว่าผู้รับจำนองเป็นการประกันการชำระหนี้โดยไม่ส่งมอบทรัพย์สิน นั้นให้แก่ผู้รับจำนอง” วรรคสอง บัญญัติว่า “ผู้รับจำนองชอบที่จะได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญ มิพักต้องพิเคราะห์ว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน จะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้ว หรือหาไม่”
 
ลักษณะของสัญญาจำนอง
 
1.ผู้จำนอง คือ
1.1 ตัวลูกหนี้เอง หรือ
1.2 บุคคลอื่นนำทรัพย์สินมาจำนองกับเจ้าหนี้
2. สัญญาจำนองต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ผู้จำนองต้องเอาเอกสารที่แสดงถึงสิทธิในทรัพย์สิน เช่น โฉนดที่ดิน เป็นต้น ไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ทรัพย์สินของ ผู้จำนองผูกพันหนี้ประธาน โดยผู้จำนองไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินที่จำนอง ทั้งนี้ผู้รับจำนองจะต้องเป็นเจ้าหนี้และหนี้จำนองที่เป็นประกันจะต้องเป็น หนี้ที่สมบูรณ์ด้วยกฎหมายกำหนดแบบของสัญญาจำนองไว้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่
(ตามมาตรา 714)นอกจากนี้จะต้องมีข้อความที่ระบุถึงทรัพย์สินที่จำนอง (ตามมาตรา 704)และวงเงินที่จำนองด้วย (ตามมาตรา 708)
ถ้าสัญญาไม่มีข้อความตามที่กฎหมายบังคับ เจ้าหน้าที่จะไม่จดทะเบียนจำนองให้ การมอบโฉนดที่ดินหรือที่ดิน นส.3 ให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้โดยไม่ได้ไปจดทะเบียนจำนอง ไม่ถือว่าเป็นการจำนอง
3.ทรัพย์สินที่จำนองได้ คือ
ตามมาตรา 703 วรรคแรก บัญญัติว่า “อันอสังหาริมทรัพย์นั้นอาจจำนองได้ไม่ว่าประเภทใดๆ” วรรคสอง บัญญัติว่า “สังหาริมทรัพย์อันจะกล่าวต่อไปนี้ก็อาจจำนองได้ดุจกัน หากว่าได้จดทะเบียนไว้แล้วตามกฎหมาย คือ
(1)เรือ มีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป
(2)แพ
(3)สัตว์พาหนะ
(4)สังหาริมทรัพย์อื่นๆ ซึ่งกฎหมายหากบัญญัติไว้ให้จดทะเบียนเฉพาะการ”
อสังหาริมทรัพย์ที่จำนองได้ เช่น โฉนดที่ดิน,บ้าน,โรงเรือน,สิ่งปลูกสร้าง เป็นต้น สังหาริมทรัพย์ โดยทั่วไปจำนองไม่ได้ เช่น รถยนต์,ทอง,นาฬิกา เป็นต้น แต่ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์พิเศษ
ตามมาตรา 703 วรรคสอง จึงจะจดทะเบียนจำนองได้
 
หลักเกณฑ์ในการจำนอง
 
            1. ผู้จำนองต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิในทรัพย์ที่จะจำนอง
            2. สัญญา จำนอง ต้องทำเป็นหนังสือและนำไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ มิฉะนั้นสัญญาจำนองตกเป็นโมฆะไม่มี ผลผูกพันแก่คู่สัญญาแต่อย่างใด ในการกู้ยืมเงินนั้นมีอยู่เสมอ ที่ผู้กู้ได้นำเอาโฉนดที่ดินของตนไปมอบให้แก่ผู้ให้กู้เก็บรักษาไว้เฉยๆ เพื่อเป็นหลักประกันในการชำระหนี้ โดยไม่มีการทำเป็นหนังสือและไม่ได้นำไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ในกรณีเช่นนี้ไม่ใช่
การจำนอง ผู้ให้กู้หาได้มีสิทธิใดๆ ในที่ดินตามโฉนดแต่อย่างใด คงได้แต่เพียงกระดาษโฉนดไว้ในครอบครองเท่านั้น ดังนั้น ถ้าผู้ให้กู้ ประสงค์ที่จะให้เป็นการจำนองตามกฎหมายแล้ว จะต้องทำเป็นหนังสือและนำไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
            3. ต้องไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจรับจดทะเบียนจำนองตามกฎหมาย กล่าวคือ
ก. ที่ดินที่มีโฉนดต้องนำไปจดทะเบียนที่กรมที่ดิน หรือสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร (สาขา) หรือสำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัด (สาขา) ซึ่งที่ดินนั้นต้องอยู่ในเขตอำนาจ
           ข. ที่ดินที่ไม่มีโฉนด ได้แก่ที่ดิน น.ส. 3 ต้องไปจดทะเบียนที่อำเภอ ซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่ในเขตอำนาจ
            ค. การจำนองเฉพาะบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างไม่รวมที่ดินต้องไปจดทะเบียนจำนองที่อำเภอ

ขอบเขตของสิทธิจำนอง

ผู้รับจำนองมีสิทธิบังคับจำนองได้เฉพาะทรัพย์ที่จดทะเบียนจำนองเท่านั้น จะไปบังคับถึงทรัพย์สินอื่นๆ ที่ไม่ได้จดทะเบียนจำนองไม่ได้
เช่น จำนองเฉพาะที่ดินย่อมไม่ครอบถึงโรงเรือนหรือบ้านที่ปลูกภายหลังวันจำนองเว้น แต่จะได้ตกลงกัน
ไว้ก่อนหน้าว่าให้รวมถึงบ้านและโรงเรือนดังกล่าวด้วย
– จำนองเฉพาะบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของคนอื่น ก็มีสิทธิเฉพาะบ้านเท่านั้น
– จำนองย่อมไม่ครอบคลุมถึงดอกผลแห่งทรัพย์สินซึ่งจำนอง เช่น จำนองสวนผลไม้ดอกผลที่ได้จากสวนผล
ไม้ยังคงเป็นกรรมสิทธิของผู้จำนองอยู่ ทรัพย์สินซึ่งจำนองอยู่นี้ ย่อมเป็นประกันเพื่อการชำระหนี้ดังต่อไปนี้คือ
1. เงินต้น
2. ดอกเบี้ย
3. ค่าเสียหายในการไม่ชำระหนี้ เช่นค่าทนายความ
4. ค่าธรรมเนียมในการบังคับจำนอง
 
การชำระหนี้จำนอง
 
การชำระหนี้จำนองทั้งหมดหรือแต่บางส่วนก็ดี การระงับหนี้จำนองไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ดีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อตกลงในการจำนองก็ดี กฎหมายบังคับให้ไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่มิฉะนั้น แล้วจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้
            ตัวอย่าง นายเอกจำนองที่ดินของตนไว้กับนายโท ต่อมานายโทยอมปลดจำนองที่ดินดังกล่าวให้แก่นายเอก แต่ ทั้งสองฝ่ายมิได้ไปจดทะเบียนการปลดจำนองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ต่อมานายโทโอน การจำนองให้นายจัตวาโดย จดทะเบียนถูกต้อง แล้วนายจัตวาได้บังคับจำนองที่ดินแปลงนี้ นายเอกจะยกข้อต่อสู้ว่านายโทปลดจำนองให้แก่ตนแล้ว
ขึ้นต่อสู้กับนายจัตวาไม่ได้
 
 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คุณชาตรี โทร. 095-472-7322 
 
(หากผมไม่ได้รับสาย ผมจะรีบติดต่อกลับให้เร็วที่สุดนะครับ)
 

 

ข้อมูลติดต่อ

 

โทร : 095-472-7322

 

FACEBOOK : JPCapitalDotPartners

 

E-MAIL : hearhui@gmail.com

 

LINE : hearhui